ภาวะโรคนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ประสบกับเหตุการณ์รุนแรงเป็นที่น่าสะเทือนขวัญสำหรับคนผู้นั้น ถ้าอาการเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 1 เดือนจะเรียกว่า acute stress disorder แต่ถ้า อาการนานมากกว่า 1 เดือนขึ้นไปแล้วถึงจะเรียกว่า PTSD
อาการ 3 ด้านหลัก
- Re-experience : รู้สึกเหมือนกลับเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ อาจตอนตื่นหรือฝันระหว่างหลับ
- Avoidance : พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เตือนใจถึงเหตุการณ์นั้น เช่นสถานที่ สิ่งของ บุคคล
- Hypervigilance : มีอาการไวขึ้นของระบบประสาท เช่นตื่นผวาง่าย สะดุ้งบ่อยๆ เหงื่อแตก ลุกลี้ลุกลน ระแวดระวังตลอดเวลา
ที่พบร่วมได้ คือนอกจากอาการเข้าเกณฑ์วินิจฉัยของ PTSD ครบแล้วยังมีอาการ “Dissociation” คือมีอย่างน้อย 1 ใน 2 ข้อต่อไปนี้เมื่อถูกสิ่งกระตุ้นให้นึกถึงเหตุการณ์
- Depersonalization รู้สึกเหมือนตัวเองแยกร่างเป็นอีกคนหนึ่งเพื่อที่จะได้ไม่รับรู้ว่าสิ่งรุนแรงนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความฝันหรือดูภาพยนตร์
- Derealization รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวดูผิด
แปลกไปไม่สมจริง สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนไม่ใช่ความจริง
“Delayed” PTSD คือบางคนกว่าอาการจะปรากฎจนครบเกณฑ์วินิจฉัยอาจกินเวลานานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆก็ตาม
เกณฑ์วินิจฉัย : ต้องมีครบข้อ A-H
A เผชิญหน้ากับ : ความตาย/เกือบตาย/บาดเจ็บสาหัส/ความรุนแรง/คุกคามทางเพศ ทั้ง
- เผชิญเหตุการณ์โดยตรง
- เป็นพยานในเหตุการณ์
- รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวหรือคนสนิท
- รับรู้รายละเอียดของเหตุการณ์ที่รุนแรง มักเกิดกับคนทำงานที่เกี่ยวข้อง เช่นหน่วยกู้ภัย ตำรวจ
B มีอาการที่เสมือนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์อย่างน้อย 1 ข้อ จากต่อไปนี้
- มักระลึกถึงเหตุการณ์นั้นผุดขึ้นมาเองบ่อยๆโดยควบคุมไม่ได้
- ฝันร้ายซ้ำๆเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น
- บางทีเห็นภาพ/ได้กลิ่น/ได้ยินเสียง/มีปฏิกิริยาทางร่างกายเหมือนกลับเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น
- มีความรู้สึกทางอารมณ์ที่เหมือนกลับเข้าไปเผชิญกับเหตุการณ์นั้นขึ้นมาซ้ำๆเมื่อพบเจอสิ่งที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานที่ อาวุธ ฯลฯ
C มีพฤติกรรมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เตือนใจถึงเหตุการณ์นั้น เช่น
- พยายามจะตัดความคิด/อารมณ์ความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นออกไป
- หลีกเลี่ยงออกห่างจากการเข้าใกล้บุคคล/สถานที่/สิ่งของ/สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงเหตุการณ์นั้น
D มีความคิด/อารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นมาหลังจาก
- เกิดเหตุการณ์นั้นอย่างน้อย 2 ข้อจากต่อไปนี้
- จำส่วนสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ (เกิดจากกลไกป้องกันตัว)
- กลายเป็นคนมองตัวเอง/คนอื่นและโลกแง่ร้าย คาดว่าจะต้องเกิดแต่เรื่องร้ายๆขึ้น
- โทษตนเองหรือผู้อื่นมากไปสำหรับเหตุการณ์นั้น
- มีอารมณ์เชิงลบเกิดขึ้นต่อเนื่อง เช่นอับอาย โกรธแค้น รู้สึกผิด รู้สึกกลัว
- เลิกสนใจเข้าสังคมทำกิจกรรมต่างๆ
- รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากผู้อื่น
- หมดความรู้สึกผาสุกในชีวิต ไม่สามารถสัมผัสอารมณ์เชิงบวกได้อีก
E มีอาการตื่นตัว ตอบสนองไว ผวาง่ายหลังจากเกิดเหตุการณ์ อย่างน้อย 2 ข้อจากต่อไปนี้
- หงุดหงิดฉุนเฉียว ก้าวร้าวขึ้น
- มีพฤติกรรมเสี่ยงภัย บ้าระห่ำ ทำลายตนเอง
- ดูระแวดระวังภัยตลอดเวลา
- กลายเป็นคนขี้ตกใจ สะดุ้งง่าย
- สมาธิแย่ลงมาก
- มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับ นอนไม่อิ่ม หลับๆตื่นๆ ฝันร้าย
F อาการข้อ B-Eนานเกิน 1 เดือนขึ้นไป
G อาการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นทุกข์ เกิดความบกพร่องทั้งหน้าที่การงาน/การเรียน /การเข้าสังคมและความสัมพันธ์เสียหายไป
H อาการไม่ได้เกิดจากการใช้ยา/สารเคมี/โรคอื่นๆ
หมายเหตุ*
ในเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ อาจสังเกตจากการเล่นซ้ำๆถึงเรื่องราวของเหตุการณ์รุนแรงนั้นหรืออาการผวาฝันร้ายตอนนอน
การรักษา Rx
• จิตบำบัด
- EMDR
- CBT